โลกสีสวย สุดสัปดาห์นี้ พาคุณผู้อ่านไปคุยกับ แมงมุม ณพิภา นิโครธานนท์ ทูตลูกหนังสาวประจำสโมสร บีจี ปทุม ยูไนเต็ด หรือที่แฟนบอลรู้จักกันในนาม แรบบิท เกิร์ล
โลกสีสวย สุดสัปดาห์นี้ พาคุณผู้อ่านไปคุยกับ แมงมุม ณพิภา นิโครธานนท์ ทูตลูกหนังสาวประจำสโมสร บีจี ปทุม ยูไนเต็ด หรือที่แฟนบอลรู้จักกันในนาม แรบบิท เกิร์ล
สำหรับสาวแมงมุมต้องบอกเลยว่า นี่คือ แรบบิท เกิร์ล รุ่นลิมิเต็ด อิดิชัน เพราะนอกจากจะสวย เก่ง น่ารัก และเซ็กซี่ขี้เล่นแล้ว เธอยังสามารถทำนายทายทักดวงชะตาได้อย่างแม่นยำจนได้รับฉายาว่า “แม่หมอแมงมุม” อีกด้วย
ถึงตรงนี้หลายท่านคงอยากจะรู้จักเธอให้มากขึ้นแล้ว เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลาเราไปคุยกับ แรบบิทแมงมุม พร้อม ๆ กันเลยดีกว่า
แนะนำตัวหน่อยจ้า
“สวัสดีค่ะ แมงมุม-ณพิภา นิโครธานนท์ นะคะ หนูจะเป็นคนบุคลิกง่าย ๆ สบาย ๆ ค่ะ หลายคนจะมองว่า หนูเรียบร้อย แต่ที่จริงจะนิสัยออกแมน ๆ หน่อย หนูจะเป็นคนคุยเก่งถ้ามีคนชวนคุย แต่ส่วนใหญ่จะชอบเป็นฝ่ายรับฟังมากกว่าค่ะ”
เจ้าแม่โฆษณาผ่านงานมากว่า 50 ชิ้น
“หนูเริ่มเป็นนางแบบตั้งแต่เรียนจบเลยค่ะ และก็จะมีไปแคสต์งานโฆษณาอยู่เรื่อย ๆ ที่ผ่านมาน่าจะถ่ายโฆษณาไปแล้วกว่า 50 ตัว โดยโฆษณาตัวที่ทำให้คนจำได้มากที่สุดก็คือ เอ็มเค สุกี้ ค่ะ”
“สำหรับ แมงมุม ช่วงแรก ๆ อาจจะยากหน่อยเพราะจำได้ว่ากว่าจะได้งานชิ้นแรกก็ไปแคสต์เกิน 20 ครั้ง แต่พอเราจับทางได้ว่า ต้องทำอย่างไรก็จะได้งานเรื่อย ๆ ค่ะ”
จากลูกสาวร้านขายพระสู่แม่หมอแมงมุม
“หนูเป็นเด็กที่มาจากบ้านที่ทำธุรกิจขายพระพุทธรูปแถวท่าพระจันทร์ และจากธุรกิจของที่บ้านก็ทำให้เราได้มีโอกาสได้ไปเข้าร่วมพิธีบวงสรวงต่าง ๆ เวลามีลูกค้ามาจ้างหล่อพระอยู่บ่อยครั้ง ก็ทำให้ได้รู้จักกับบรรดาอาจารย์ที่ท่านมาช่วยทำพิธี ซึ่งท่านก็มีชวนไปร่วมพิธีต่าง ๆ อย่างพิธีสวดมนต์ใหญ่จนทำให้เราเริ่มเกิดความศรัทธาหลาย ๆ อย่าง และมีความคิดที่อยากจะลองเป็นหมอดูขึ้นมา”
“นอกจากนี้ตอนเด็ก ๆ หนูก็เคยไปซื้อไพ่ยิปซีมาดูเล่น ตอนแรกซื้อมาเพราะลายบนไพ่มันสวยดี แต่จากนั้นก็เริ่มเรียนรู้วิธีดูดวงแบบครูพักลักจำ จนกระทั่งได้ลองไปดูดวงให้เพื่อนแล้วเพื่อนก็ชมว่า หนูดูแม่น โทรฯ มาขอให้เราดูดวงให้อีก แต่ตอนนั้นหนูเริ่มกลัวนะคะเพราะไม่รู้ว่า อาชีพหมอดูเป็นอย่างไร เขาทำกันแบบไหน อีกอย่างเราก็ไม่ได้เรียนทางนี้อย่างเป็นเรื่องเป็นราว ก็เลยรู้สึกว่า เรากำลังหลอกเขาอยู่หรือเปล่า เราก็เลยหยุดดูดวงไปนานเลยค่ะ”
รับดูดวงจริงจังเพราะโควิดตัวร้าย
“ช่วงที่โควิดระบาดมันไม่มีงานนางแบบ หรือถ่ายโฆษณาเข้ามาเลย หนูจึงตัดสินใจไปลงเรียนดูดวงด้วยไพ่พรหมญาณกับอาจารย์ท่านหนึ่ง ซึ่งไม่ได้เน้นอิทธิฤทธิ์ปาฏิหาริย์ และดูดวงบนพื้นฐานของหลักเหตุผล โดยตอนนั้นก็ยังไม่ได้คิดนะคะว่า จะผันตัวมาเป็นหมอดู คิดแค่ว่า อยากมีวิชาติดตัวเอาไว้ดูดวงหาเงินถ้ามันไม่มีอะไรทำจริง ๆ เท่านั้น”
“หลังจากลงเรียนก็คิดเหมือนกันว่า ฉันทำอะไรลงไปเพราะเสียค่าเรียนแพงมาก (หัวเราะ) และต้องรอคิวนานถึง 4 เดือนเพราะมีคนมาลงเรียนเยอะมาก แต่พอได้เรียนแล้วหนูก็อยากไปให้สุดก็เลยลงเรียนดูดวงด้วยตัวเลขต่อเลย”
“พอเรียนจบเราก็เริ่มรับงานโดยเริ่มจากดูดวงให้คนรอบข้าง และก็ลองไปโพสต์บนเฟซบุ๊กว่า รับดูเบอร์มือถือฟรีเพราะยังไม่กล้าดูไพ่ ปรากฏว่า ลูกค้าที่เขามาดูคนแรกบอกว่าเราดูแม่น และให้เราช่วยหาเบอร์ใหม่ให้ หลังจบงานนี้เราก็เลยรู้ว่า การเป็นหมอดูสามารถยึดเป็นอาชีพ และสร้างรายได้ให้เราได้จริง”
“ส่วนจุดเปลี่ยนที่ทำให้เริ่มดูไพ่ด้วยก็คือตอนที่มีลูกดวงคนหนึ่งโทรฯ มาหากลางดึก และบอกว่า เครียดมากอยากให้เปิดไพ่ให้หน่อย
ซึ่งตอนนั้นหนูคิดค่าครูแค่ 50 บาท ปรากฏว่า หนูก็อ่านดวงจากไพ่แล้ว
เขาก็บอกว่าแม่น หนูก็คิดในใจว่า ไพ่ครูของมันแรง (หัวเราะ)”
“จากนั้นเราก็มั่นใจ และเริ่มรับคิวดูดวง เริ่มปรับราคาขึ้นมาตามความเหมาะสมค่ะ จากแต่ก่อนที่ไม่ชอบเวลามีใครมาเรียกว่า แม่หมอแมงมุม ตอนนี้กลายเป็นภูมิใจเพราะรู้สึกว่า เราได้ช่วยให้หลายคนได้คลายความทุกข์ในใจค่ะ”
อยากทำบุญแต่ไม่มีเวลาก็เปลี่ยนบ้านให้เป็นวัดเสียเลย
“คนเราไปวัดเพื่อทำบุญ สวดมนต์ และทำสมาธิให้จิตใจสงบ แต่บางคนไม่มีเวลามากพอที่จะไปวัด แถมพอไปวัดเราก็อาจจะเบียดเบียนตัวเองเพราะต้องควักเงินหยอดตู้บริจาคที่มีอยู่มากมาย”
“ดังนั้นถ้าปัญหามันเยอะมาก เราก็อยู่บ้านนี่ล่ะค่ะ เราสามารถทำทุกอย่างในบ้านได้เหมือนตอนไปวัดขอให้ตั้งใจจริงเท่านั้น เราสามารถสวดมนต์ไหว้พระ นั่งสมาธิได้ อยากทำบุญก็สามารถโอนเงินออนไลน์ได้ตามกำลังของเรา”
“ส่วนตัวหนูจะหักรายได้จากการทำงานทุกอย่างเอาไว้ 10 เปอร์เซ็นต์ และโอนเข้าบัญชีเอาไว้สำหรับทำบุญในแต่ละเดือน ซึ่งถ้าหมดแล้วก็คือหมดเราจะไม่เบียดเบียนตัวเองเพื่อทำบุญอีกแล้วในเดือนนั้น ๆ ค่ะ”